Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) คือ กลุ่มของสารเคมีที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายเฉพาะต่อรีเซปเตอร์ของฮอร์โมนแอนโดรอเจนในร่างกาย โดยไม่มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากฮอร์โมนแอนโดรอเจนในอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ต่อมลูกฝ้าย หรือต่อมน้ำเหลือง
SARMs ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับการสูญเสียของกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น โรคกระดูกพรุน หรือการสูญเสียกล้ามเนื้อเนื่องจากโรคเรื้อรัง แต่ในปัจจุบัน SARMs ยังถูกใช้ในวงการกีฬาและการสร้างกล้ามเนื้อเนื่องจากมีฤทธิ์เพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน
อย่างไรก็ตาม การใช้ SARMs ในวงการกีฬามักถูกพิจารณาว่าเป็นการใช้สารเสริมประสิทธิภาพที่ไม่ซื่อสัตย์ และอาจมีผลข้างเคียงที่ยังไม่รู้จักเต็มที่ ดังนั้น การใช้ SARMs ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
การใช้ SARMs อาจมีผลข้างเคียงบางประการ และการศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์และความปลอดภัยของ SARMs ยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน.
SARMs ที่นิยมใช้กันมีตัวไหนบ้าง?
SARMs มีหลายตัว บางตัวที่เป็นที่รู้จักกันในวงการวิจัยและการใช้งานมีดังนี้:
- Ostarine (MK-2866): ใช้สำหรับการส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
- Ligandrol (LGD-4033): มีฤทธิ์เพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
- Andarine (S4): ใช้สำหรับการเพิ่มกล้ามเนื้อและการลดไขมัน
- RAD140 (Testolone): มีฤทธิ์เพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
- S-23: มีฤทธิ์เพิ่มกล้ามเนื้อและการลดไขมัน
บางครั้ง, สารบางตัวที่ไม่ใช่ SARMs อาจถูกจับรวมอยู่ในกลุ่ม SARMs เนื่องจากมีฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกับ SARMs หรือถูกตลาดนำมาใช้ในวงการกีฬาและการสร้างกล้ามเนื้อเช่นเดียวกับ SARMs ตัวอย่างของสารเหล่านี้ได้แก่:
- Cardarine (GW-501516): บางครั้งถูกเรียกว่า “SARM” แต่จริงๆ แล้วเป็น PPARδ modulator ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มการเผาผลาญไขมันและสมรรถภาพการออกกำลังกาย
- Stenabolic (SR9009): อีกสารหนึ่งที่บางครั้งถูกเรียกว่า “SARM” แต่จริงๆ แล้วเป็น Rev-ErbA agonist มีฤทธิ์เพิ่มการเผาผลาญไขมันและสมรรถภาพการออกกำลังกาย
- Ibutamoren (MK-677): บางครั้งถูกเรียกว่า “SARM” แต่จริงๆ แล้วเป็น Growth Hormone Secretagogue ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนเจริญเติบโต
เหตุผลที่สารบางตัวถูกจับรวมเข้าไปในกลุ่ม SARMs เนื่องจากการตลาดและความนิยมในวงการเสริมกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย แต่จริงๆ แล้ว, สารเหล่านี้มีโครงสร้างเคมีและวิธีการทำงานที่แตกต่างจาก SARMs ดังนั้น, ผู้ที่สนใจในการใช้สารเหล่านี้ควรทำความเข้าใจถึงสารที่ต้องการใช้และควรปรึกษากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งานเพื่อความปลอดภัย.