มารู้จัก Finasteride (Proscar) กันเถอะ

Finasteride หรือชื่อทางการค้าที่เรียกว่า Proscar

Finasteride เป็นยาที่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ในการรักษาสองสภาวะโรค:

  1. Hypertrophy of the prostate (BPH): ในชื่อการค้า Proscar, finasteride ใช้เพื่อลดขนาดต่อมลูกหมากที่ขยายตัวในผู้ชาย โดยความขยายตัวของต่อมลูกหมากสามารถทำให้เกิดอาการปัสสาวะไม่สะดวก เช่น การปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะยาก, หรือความรู้สึกว่าไม่สามารถปัสสาวะหมดได้
  2. Androgenic alopecia (ผมร่วงแบบชาย): ในชื่อการค้า Propecia, finasteride ใช้ในการรักษาผมร่วงแบบชาย โดยเป้าหมายของการรักษาคือการลดการผลิตของ dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการร่วงของผม

วิธีการทำงานของ finasteride คือการยับยั้ง enzyme 5-alpha reductase ซึ่งเป็นตัวที่แปลง testosterone เป็น dihydrotestosterone (DHT). DHT เป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของผมและส่งผลให้ต่อมลูกหมากขยายตัว

โดยทั่วไป finasteride เป็นยาที่ปลอดภัยและได้รับผลตอบรับดีในการรักษาสองสภาวะโรคที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็มีข้อระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และแจ้งแพทย์ถ้าพบผลข้างเคียงใด ๆ

Finasteride (Proscar) / Half life คืออะไร?

“Half-life” หรือ ชีวิตครึ่งแล้งของยาเป็นค่าที่แสดงถึงเวลาที่จำเป็นในการลดปริมาณยาในระบบเลือดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณเริ่มต้น. ยกตัวอย่างเช่น, ถ้าคุณใช้ยาที่มี half-life 5 ชั่วโมง, หลังจาก 5 ชั่วโมง, ปริมาณยาที่ยังคงอยู่ในระบบเลือดของคุณจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง.

เมื่อพิจารณา half-life ของยา, มันสำคัญในการทำความเข้าใจว่ายาสามารถยังคงอยู่ในระบบของคุณได้นานหลายวัน แม้ว่าปริมาณยาที่อยู่ในระบบของคุณจะลดลงอย่างรวดเร็วตาม half-life แต่ยาก็ยังคงมีผลกระทบในระยะยาวจนกว่ายาจะถูกขับไล่ออกจากระบบเลือดทั้งหมด.

Finasteride (Proscar) นักเพาะกายใช้ช่วงไหน?

ผมร่วงแบบชาย (Androgenic alopecia) โดยการยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha reductase ทำให้การแปลงของ testosterone เป็น dihydrotestosterone (DHT) ลดลง ซึ่ง DHT เป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดผมร่วงและขยายตัวของต่อมลูกหมาก

แต่สำหรับกลุ่มนักเพาะกายหรือบุคคลที่ใช้สารสนับสนุนการเพาะกาย (anabolic steroids), บางครั้ง finasteride อาจถูกใช้เพื่อช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดจากการใช้สารสนับสนุนเช่น ผมร่วง

Side effect ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ finasteride (Proscar) มีอะไรบ้าง?

ารใช้ finasteride (Proscar) สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงบางประการ ซึ่งไม่ทุกคนที่ใช้ยานี้จะประสบปัญหาเหล่านี้ ต่อไปนี้คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ finasteride:

  1. ปัญหาทางเพศสัมพันธ์: การลดลงของเสน่ห์ทางเพศ, ความยากลำบากในการดูดซับหรือรักษาการดูดซับ, การลดปริมาณของน้ำเชื้อ
  2. ปัญหาในการเจริญพันธุ์: ความผิดปกติของน้ำเชื้อ, การลดลงของขนาดของต่อมน้ำเหลือง
  3. ปัญหาเกี่ยวกับเต้านม: เจ็บปวด, บวม, หรือการขยายตัวของเต้านม; หรือการหลั่งนมจากเต้านม
  4. ปฏิกิริยาแพ้ยา: คัน, ผื่น, ปัญหาการหายใจ, บวมของใบหน้า, ปาก, ลิ้น, หรือคอ
  5. เปลี่ยนแปลงการรับรู้ด้านจิตใจ: เช่น ซึมเศร้า, ความวิตกกังวล, ความตื่นเต้น

ปริมาณการใช้สำหรับ finasteride (Proscar) เป็นอย่างไร?

Finasteride ในรูปแบบของ Proscar มักถูกใช้สำหรับการรักษาการขยายตัวของต่อมลูกหมาก (benign prostatic hyperplasia – BPH). การรับประทานยาจะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ แต่โดสมาตรมาตรฐานสำหรับการรักษา BPH คือ:

5 มิลลิกรัมต่อวัน

ต้องระวังว่า finasteride มีการใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันสำหรับการรักษาโรคต่างๆ:

  • Finasteride 1 มิลลิกรัม (เช่น Propecia) มักถูกใช้สำหรับการรักษาผมร่วงแบบชาย (androgenic alopecia).
  • Finasteride 5 มิลลิกรัม (เช่น Proscar) มักถูกใช้สำหรับการรักษาการขยายตัวของต่อมลูกหมาก.

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ finasteride (Proscar)

หากต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ finasteride (Proscar) คุณสามารถศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ดังนี้:

  1. ยากรณ์หลัก: สมุดข้อมูลยาของสถาบันวิจัยและพัฒนายา (Thailand FDA Drug Encyclopedia) หรือ สมุดยาที่แพทย์มักใช้ (สำหรับประเทศไทย).
  2. U.S. Food and Drug Administration (FDA): บนเว็บไซต์ของ FDA จะมีส่วนของ “Drug Information” ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับยาที่ได้รับการรับรองและข้อมูลปลอดภัยของยา.
  3. MedlinePlus: เว็บไซต์นี้เป็นของ U.S. National Library of Medicine ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาและสุขภาพอื่น ๆ ที่เขียนในรูปแบบที่ผู้อ่านทั่วไปสามารถเข้าใจได้.
  4. รายงานวิจัยและบทความทางวิชาการ: บนเว็บไซต์ของ PubMed หรือ Google Scholar ซึ่งมีการเผยแพร่บทความวิจัยทางวิชาการและรีวิวระบบาติกเกี่ยวกับ finasteride.
  5. สมุดข้อมูลยา (Drug Monographs): เช่น Micromedex, Lexicomp, หรือ UpToDate.
  6. องค์กรและสมาคม: เช่น American Urological Association หรือ European Association of Urology ซึ่งมักมีแนวทางการรักษาและข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการรักษาปัจจุบัน.

ในการใช้งานเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลที่สนใจ, ควรตรวจสอบวันที่อัปเดตล่าสุดและยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการตัดสินใจในการใช้ยา.