มารู้จัก Furosemide (Lasix) กันเถอะ

Furosemide หรือที่เรียกกันว่า Lasix

Furosemide หรือที่รู้จักในชื่อสามัญที่ว่า Lasix คือยาละลายน้ำ (diuretic) ประเภท loop diuretic ที่ใช้เพื่อรักษาโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวข้องกับการสะสมของน้ำและเกลือในร่างกาย เช่น โรคหัวใจล้มเหลว, โรคตับ, และโรคไต

การทำงานของ Furosemide คือการยับยั้งการดูดซึมเกลือและน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายที่ไต เฉพาะที่ลูปของ Henle ทำให้ร่างกายขับน้ำและเกลือออกมากขึ้น ซึ่งมีผลในการลดปริมาณน้ำที่สะสมในร่างกาย และยังช่วยลดความดันโลหิต

การใช้ยานี้มีผลข้างเคียงบางอย่างที่ควรระวัง เช่น การสูญเสียโซเดียม, โปแตสเซียม, แคลเซียม, และอื่นๆ การขับเกลือออกมากเกินไปจากร่างกายอาจทำให้เกิดภาวะขาดเกลือและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

การใช้ Furosemide ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และควรตรวจสอบระดับไฟฟ้าไฟในเลือด (electrolytes) และฟังก์ชั่นของไตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันและตรวจจับการเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

Furosemide (Lasix) / Half life คืออะไร?

สำหรับ Furosemide (Lasix), half-life ของยานี้ในผู้ใหญ่ปกติอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง แต่ต้องระวังว่า half-life นี้อาจแตกต่างไปตามสภาวะร่างกายของแต่ละคน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาที่ไตหรือตับ

Half-life นั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดความถี่ในการให้ยา และเข้าใจว่ายานั้นจะถูกกำจัดออกจากร่างกายภายในเวลาเท่าใด

Furosemide (Lasix) นักเพาะกายใช้ช่วงไหน?

Furosemide (Lasix) เป็นยาละลายน้ำ (diuretic) ที่มีความสามารถในการขับน้ำและเกลือออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว จากคุณสมบัตินี้ ยา Lasix ได้ถูกใช้ (โดยไม่ได้รับการรับรองการใช้จริงๆ) โดยบางกลุ่มของนักเพาะกายเพื่อลดน้ำในร่างกายให้เหลือเฉพาะกล้ามเนื้อ เพื่อเน้นการแสดงผลของกล้ามเนื้อมากขึ้นหรือเพื่อการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วก่อนการแข่งขัน

ในบางสถานการณ์, นักเพาะกายอาจใช้ Furosemide หรือยาละลายน้ำประเภทอื่นๆ ก่อนการแข่งขันเพื่อ:

  1. ช่วยเน้นการแสดงผลของกล้ามเนื้อ โดยการลดน้ำที่สะสมอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อและผิวหนัง
  2. ช่วยลดน้ำหนักของร่างกายสำหรับการแข่งขันในประเภทที่มีการจำกัดน้ำหนัก

Side effect ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Furosemide (Lasix) มีอะไรบ้าง?

Furosemide (Lasix) คือยาละลายน้ำ (diuretic) ประเภท loop diuretic ที่มีความสามารถในการขับน้ำและเกลือออกจากร่างกาย. ตามลักษณะของยา, มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน ได้แก่:

  1. การเสียแร่ธาตุและอิเล็กโทรไลต์ อาทิ เกิดภาวะขาดโปแตสเซียม (hypokalemia), ขาดโซเดียม (hyponatremia), และขาดแคลเซียม (hypocalcemia).
  2. การเกิดภาวะน้ำหนักต่ำกว่าปกติ เนื่องจากการขับน้ำออกจากร่างกาย.
  3. การเกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากการลดปริมาณน้ำในร่างกายอย่างรวดเร็ว.
  4. ปัญหาในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น เกิดปัญหาการปัสสาวะบ่อย.
  5. ปัญหาที่ระบบเลือดหมุนเวียน เช่น การลดความดันโลหิต (hypotension).
  6. การเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงระดับของแร่ธาตุและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย.
  7. ปัญหาที่หู เช่น การได้ยินผิดปกติหรือเสียงรบกวน.
  8. ปัญหาที่ไต เช่น การเกิดภาวะไตวาย.
  9. ปฏิกูลต่อยา กับยาอื่นๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงระดับแร่ธาตุและอิเล็กโทรไลต์.
  10. อาการทางกระเพาะอาหาร เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย.

มีผลข้างเคียงบางประการที่อาจเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและเป็นอันตราย เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ดังนั้น, การใช้ Furosemide ควรเป็นภายใต้การดูแลของแพทย์และควรติดตามระดับแร่ธาตุและอิเล็กโทรไลต์ในเลือดเป็นประจำ.

ปริมาณการใช้สำหรับ Furosemide (Lasix) เป็นอย่างไร?

ารใช้ Furosemide (Lasix) ในนักเพาะกายหรือนักกีฬาเกิดจากเหตุผลที่ต้องการลดน้ำในร่างกายให้เร็ว ทำให้เส้นเอนด้วยและกล้ามเนื้อเด่นชัดขึ้นหรือลดน้ำหนักในระยะเวลาสั้น ๆ สำหรับการตรวจน้ำหนักก่อนแข่งขัน. การใช้ยานี้เพื่อเหตุผลเหล่านี้มีความเสี่ยงสูง และไม่ถูกแนะนำ.

หากนักเพาะกายหรือนักกีฬาต้องการใช้ Furosemide ในเหตุผลที่กล่าวมา, ปริมาณการใช้จะต่างจากการใช้ในการรักษาภาวะขาดน้ำหรือโรคอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ยังคงมีความเสี่ยงอันตรายที่ผูกพัน.

ตัวอย่างปริมาณการใช้สำหรับนักเพาะกาย (สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น และไม่แนะนำให้ใช้งาน):

  • 20-40 mg ในวันก่อนแข่งขัน
  • กินน้ำในปริมาณจำกัด และหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำในปริมาณมากเกินไป
  • ตรวจสอบน้ำหนักและเส้นเอนด้วยก่อนแข่งขัน และปรับปริมาณการใช้ยาตามความต้องการ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Furosemide (Lasix)

ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Furosemide (Lasix), คุณสามารถศึกษาแหล่งข้อมูลดังนี้:

  1. รายละเอียดยา (package inserts หรือ prescribing information): ส่วนใหญ่ของยาจะมีเอกสารนี้ซึ่งระบุข้อมูลการใช้ยา, ปริมาณแนะนำ, และข้อควรระวัง
  2. PubMed: ฐานข้อมูลวารสารวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ซึ่งรวบรวมงานวิจัยและบทความทางวิชาการเกี่ยวกับยาและการรักษา
  3. UpToDate: แหล่งข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ในการใช้ยาและการรักษา
  4. MedlinePlus: เว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับยาและสุขภาพสำหรับประชาชนโดย National Library of Medicine ของสหรัฐฯ
  5. WebMD หรือ Drugs.com: เว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับยาและสุขภาพสำหรับประชาชน
  6. องค์กรแพทยสภาของประเทศต่างๆ: เช่น FDA (สหรัฐฯ), EMA (ยุโรป), TGA (ออสเตรเลีย) ฯลฯ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบในการอนุมัติยา

ทั้งนี้, ต้องระมัดระวังเมื่อเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการหรือไม่มีการตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือผิดพลาด.