“Insulin” เป็นฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นโดยเซลล์เบต้าในตับของเรา และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในการทำงานปกติของร่างกาย หากเราทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว มัน และขนม ร่างกายจะย่อยอาหารเหล่านี้เป็นน้ำตาลและปล่อยในกระแสเลือด ฮอร์โมนอินซูลินจะถูกปล่อยออกมาเพื่อช่วยในการย้ายน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ เพื่อใช้เป็นพลังงาน
ความเป็นมาของอินซูลิน:
- ค้นพบอินซูลิน: ในปี 1921, Frederick Banting และ Charles Best ที่มหาวิทยาลัยแห่งเทอรอนโต ในแคนาดา ได้ค้นพบว่า สารจากตับสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของสุนัขได้ และเรียกสารนี้ว่า “insulin”.
- การผลิตอินซูลิน: ในปี 1922, อินซูลินถูกใช้เป็นการรักษาครั้งแรกกับเด็กที่มีโรคเบาหวาน และได้ผลสำเร็จอย่างมาก หลังจากนั้น การผลิตอินซูลินเพื่อการรักษาโรคเบาหวานได้เริ่มขึ้น
- การพัฒนาอินซูลิน: ในปี 1970-1980, ด้วยเทคโนโลยี DNA การเรียนรู้ อินซูลินที่ผลิตโดยแบคทีเรียได้ถูกพัฒนาขึ้น ซึ่งทำให้การผลิตอินซูลินเป็นไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- อินซูลินและโรคเบาหวาน: โรคเบาหวานเป็นโรคที่ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ หรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง การฉีดอินซูลินเป็นวิธีการรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานประเภท 1 และบางคนที่มีโรคเบาหวานประเภท 2
- การพัฒนาการรักษา: ในปัจจุบัน, มีการพัฒนาอินซูลินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น อินซูลินระยะยาว, อินซูลินระยะสั้น, และอินซูลินที่สามารถปรับปรุงการทำงานได้ตามความต้องการของร่างกาย
อินซูลินเป็นส่วนสำคัญในการรักษาโรคเบาหวาน และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของเรา.
Insulin มีกี่ประเภท?
อินซูลินมีหลายประเภทที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ประเภทของอินซูลินขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มันเริ่มทำงาน, ความเร็วในการทำงาน, และระยะเวลาที่มันยังคงอยู่ในร่างกาย นี่คือประเภทหลัก ๆ ของอินซูลิน:
- Rapid-acting insulin (อินซูลินระยะสั้น): เริ่มทำงานเร็วทันทีหลังจากการฉีด และมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดในเวลาเร็ว ๆ ตัวอย่างเช่น Insulin lispro (Humalog), Insulin aspart (NovoLog), และ Insulin glulisine (Apidra).
- Short-acting insulin (อินซูลินระยะกลาง): เริ่มทำงานภายใน 30 นาทีหลังจากการฉีด ตัวอย่างเช่น Regular insulin (Humulin R, Novolin R).
- Intermediate-acting insulin (อินซูลินระยะยาว): เริ่มทำงานภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังจากการฉีด และยังคงมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตัวอย่างเช่น NPH insulin (Humulin N, Novolin N).
- Long-acting insulin (อินซูลินระยะยาวมาก): มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น Insulin glargine (Lantus, Toujeo) และ Insulin detemir (Levemir).
- Ultra-long-acting insulin: อินซูลินประเภทนี้มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น Insulin degludec (Tresiba).
- Premixed insulin: เป็นการผสมระหว่างอินซูลินระยะสั้นหรือระยะกลางกับอินซูลินระยะยาว เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้งสองประเภท ตัวอย่างเช่น Novolin 70/30 หรือ Humalog Mix 50/50.
การเลือกใช้อินซูลินขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วย, รูปแบบการรักษา, และแนวทางการรักษาที่แนะนำโดยแพทย์.