มารู้จัก MOTS-C (Wellness Peptides) กันเถอะ

MOTS-C คืออะไร

MOTS-c (อ่านว่า “ม็อทส์-ซี”; ย่อจาก mitochondrial open reading frame of the 12S rRNA-c) เป็นเปปไทด์ขนาด 16 กรดอะมิโนที่ “เข้ารหัสจากไมโตคอนเดรีย” ไม่ใช่จากนิวเคลียส ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2015 มีบทบาทควบคุมเมตาบอลิซึมของกล้ามเนื้อและการใช้น้ำตาล และถูกกระตุ้นให้เพิ่มขึ้นตามการออกกำลังกายในมนุษย์ (จึงถูกมองว่าเป็น “exercise mimetic”) โดยทำงานสัมพันธ์กับเส้นทาง AMPK และการควบคุมการแสดงออกของยีนในนิวเคลียสภาวะเครียดของเซลล์. Nature / cell.com

กลไกสำคัญ (ย่อ)

  • กระตุ้น AMPK ผ่านการรบกวนทางเดินโฟเลต–de novo purine → เพิ่มสัญญาณพลังงานและการเผาผลาญกลูโคสในกล้ามเนื้อ. cell.com
  • เคลื่อนย้ายเข้าสู่นิวเคลียสเมื่อเกิดความเครียดเมตาบอลิซึม แล้วปรับยีนที่เกี่ยวกับเมตาบอลิซึมและ proteostasis. Nature
  • เป้าหมายโดยตรงอย่างหนึ่งคือ casein kinase 2 (CK2) ซึ่งอธิบายผลต่อมวลกล้ามและการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์. PMC / ScienceDirect
  • ลดสัญญาณ myostatin/กล้ามลีบ (เส้นทาง FOXO1–AKT–mTORC2) ในสัตว์ทดลอง. PMC / journals.physiology.org

Half-life

  • ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูล half-life ในมนุษย์ที่ตีพิมพ์ชัดเจน; แหล่งสรุปวิชาการระบุ “N/A/ยังไม่ทราบ” และ MOTS-c ถูกพัฒนาอนุพันธ์ (เช่น CB4211) เพื่อเพิ่มความคงตัว/ครึ่งชีวิต แสดงว่าตัวดั้งเดิมน่าจะมีครึ่งชีวิตสั้น. alzdiscovery.org / GlobeNewswire+1

ข้อดี/ประโยชน์ (ตามหลักฐาน)

  • เมตาบอลิซึมและอินซูลินซิติวิตี้: ในหนู MOTS-c ปรับปรุงความไวต่ออินซูลิน ป้องกัน/ย้อนกลับภาวะดื้อต่ออินซูลินจากอายุและอาหารไขมันสูง และชะลอน้ำหนักขึ้นโดย ไม่เพิ่มความอยากอาหาร. cell.com
  • สมรรถภาพทางกาย/สุขวัย: เพิ่มความอึด การวิ่ง ระยะทาง และ healthspan ในหนูหลายช่วงวัย; ในคน การออกกำลังกายทำให้ระดับ MOTS-c ในกล้ามและเลือดสูงขึ้นแบบเฉียบพลัน. Nature
  • กล้ามเนื้อ: ลด myostatin/สัญญาณกล้ามลีบ และสัมพันธ์กับการคงมวลกล้ามในสัตว์ทดลอง. PMC
  • การอักเสบ/ระบบอื่น: หลักฐานก่อนคลินิกชี้ว่าลดไซโตไคน์อักเสบ และอาจมีบทบาทต่อกระดูกและหัวใจ (ยังจำกัดในสัตว์/หลอดทดลอง). PMC / Nature / Frontiers

ผลข้างเคียงและความปลอดภัย

  • มนุษย์: ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยระยะยาวของ MOTS-c ดั้งเดิม; ไม่มีข้อบ่งใช้ที่ได้รับอนุมัติ.
  • ข้อมูลใกล้เคียง (อนุพันธ์ CB4211): ในการทดลองระยะ 1a/1b แบบสุ่มมีกลุ่มควบคุมในผู้ป่วยอ้วนร่วม NAFLD ระยะเวลา 4 สัปดาห์ รายงานว่า “ทนได้ดี ปลอดภัย ไม่มีอีเวนต์รุนแรง” ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ปฏิกิริยาที่ตำแหน่งฉีด (ชั่วคราว/ระดับอ่อน–ปานกลาง) พร้อมสัญญาณลด ALT/AST และกลูโคส. GlobeNewswire / BioSpace
  • ความเสี่ยงเชิงทฤษฎีของยาเปปไทด์: ภูมิคุ้มกันต่อตัวยา (antidrug antibodies), off-target, และปัญหาความคงตัวทางเอนไซม์ ฯลฯ (ข้อมูลทั่วไปของยากลุ่มเปปไทด์ ไม่เฉพาะ MOTS-c). PMC

สถานะทางกีฬาสากล

MOTS-c ถูกห้ามใช้ตลอดเวลาโดย WADA (จัดอยู่ในกลุ่มตัวอย่างของ ตัวกระตุ้น AMPK ภายใต้ “Metabolic Modulators”) — นักกีฬาไม่มีสิทธิ์ขอ TUE เนื่องจากยังไม่มีข้อบ่งใช้รักษาที่อนุมัติ. U.S. Anti-Doping Agency (USADA) / wada-ama.org

ปริมาณการใช้

  • ในมนุษย์ (มาตรฐาน): ยังไม่มี ขนาดยาที่ได้รับการยอมรับหรือแนวทางฉีดใต้ผิว/IV สำหรับ MOTS-c ดั้งเดิม
  • ข้อมูลจากงานวิจัยสัตว์ (เพื่อเข้าใจสเกลการทดลองเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการใช้):
    • หนู: ฉีด i.p. 5–15 mg/kg/วัน 1–2 สัปดาห์ (บางโปรโตคอล ให้ 3 ครั้ง/สัปดาห์แบบเว้นช่วง ต่อเนื่องในระยะยาว). Nature
  • ข้อมูลคลินิกของอนุพันธ์ (CB4211): ทดลองแบบผู้ป่วยใน วันละครั้ง 4 สัปดาห์ ในอาสาสมัครอ้วนร่วม NAFLD (ขนาดยาที่แน่นอนไม่เปิดเผยสาธารณะในเอกสารข่าว/โปสเตอร์ที่อ้างถึง). GlobeNewswire+1

หมายเหตุ: การแปลงขนาดยา สัตว์ → มนุษย์ ต้องใช้อัลโลเมตริกและข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ ซึ่ง ยังขาด สำหรับ MOTS-c; การใช้เชิงทดลองนอกกรอบงานวิจัยมีความเสี่ยงและไม่แนะนำ

ระยะเวลาการใช้

  • ยังไม่มีแนวทางมาตรฐานในคน
  • แบบก่อนคลินิกมักใช้เป็น คอร์สสั้น 1–2 สัปดาห์ (รายวัน) หรือ เว้นวัน/สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ต่อเนื่อง เพื่อศึกษาผลสะสม/ยืดอายุสุขภาพในสัตว์; งานคลินิกของอนุพันธ์ใช้ 4 สัปดาห์. Nature / GlobeNewswire

ข้อควรระวัง

  • ผู้ที่เป็นนักกีฬาภายใต้กติกา WADA: ห้ามใช้. U.S. Anti-Doping Agency (USADA)
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง/ตั้งครรภ์/ให้นม/วัยรุ่น: หลักฐานมนุษย์ ไม่เพียงพอ—ควรหลีกเลี่ยงนอกงานวิจัยที่ได้รับอนุมัติ
  • เปปไทด์ฉีดทั้งหมดมีความเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อน/ความบริสุทธิ์และภูมิแพ้

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม (คัดหลัก ๆ)

  • บทความค้นพบและกลไกหลักของ MOTS-c ใน Cell Metabolism (2015). cell.com
  • งาน Nature Communications (2021): MOTS-c กระตุ้นจากการออกกำลังกายในมนุษย์ และเพิ่มสมรรถภาพ/healthspan ในหนู (รวมโปรโตคอลโดสสัตว์). Nature
  • บทปริทัศน์/สรุปเชิงคลินิกและการออกกำลังกาย (2022–2023). PMC+1 / BioMed Central
  • งานวิจัยบทบาทต่อ myostatin/กล้ามลีบ. PMC
  • การกำกับดูแลด้านกีฬา: USADA/WADA Prohibited List (2024–2025). U.S. Anti-Doping Agency (USADA) / wada-ama.org
  • ข้อมูลความปลอดภัย/ผลลัพธ์เบื้องต้นของอนุพันธ์ CB4211 ในคน. GlobeNewswire

ถ้าคุณอยากให้ผมสรุป “เวอร์ชันใช้งานจริง” สำหรับคนทั่วไป (เช่น เป้าหมายลดไขมัน/ฟื้นตัว/สมรรถภาพ) ผมทำได้ แต่จะย้ำขอบเขตหลักฐาน—โดยเฉพาะเรื่องโดสในคนที่ยังไม่ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการครับ.

แนวทางการใช้ MOTS-C BY Wellness Peptides

MOTS-c ที่ “มักถูกเล่าขาน” ในวงการฟิตเนส–เพาะกาย–anti-aging (ไม่ได้มีการรับรองทางการแพทย์) ส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากงานในสัตว์ทดลอง และการแลกเปลี่ยนในฟอรั่ม/กลุ่มผู้ใช้ ดังนี้

วิธีการใช้ที่ถูกเล่าขาน

  • รูปแบบ: ฉีดใต้ผิวหนัง (subcutaneous)
  • โดสที่นิยมอ้างถึง:
    • 5–10 mg ต่อครั้ง
    • ฉีด 2–3 ครั้ง/สัปดาห์
    • บางคนเล่าขานถึง “microdosing” 2–5 mg ทุกวัน
  • ระยะเวลา: คอร์สสั้น 4–6 สัปดาห์ → หยุดพัก → บางรายทำซ้ำเป็นรอบๆ
  • จุดประสงค์:
    • เพิ่มความอึด/พลังงานแบบ “exercise mimetic”
    • คงมวลกล้าม ลดกล้ามลีบ โดยเฉพาะในช่วงลดน้ำหนักหรือติดเตียง
    • สนับสนุนสุขภาพเมตาบอลิซึม (อินซูลินซิติวิตี้)

ความแตกต่างของแนวทาง

  • สายเพาะกาย: ใช้ร่วมกับ AAS/peptides อื่น เพื่อช่วยคงกล้ามและลด fat gain
  • สาย longevity/anti-aging: เลือกโดสต่ำ (2–5 mg EOD หรือ 2–3 ครั้ง/สัปดาห์) เพื่อเลียนแบบ physiological pulse ที่เกิดตามการออกกำลังกาย
  • สาย performance: บางคนใช้ขนาดสูงกว่า (10–15 mg/วัน) ช่วง 2–3 สัปดาห์ก่อนแข่ง แต่เสี่ยงสูงมากเพราะ WADA ห้ามใช้

สิ่งที่ต้องระวัง

  • ยังไม่มีข้อมูล half-life ที่ชัดเจน → ยากจะบอกความถี่ที่ “เหมาะสมจริง”
  • ข้อมูลมนุษย์ตรงๆ ยังไม่มี → ทุกแนวทางถือว่า speculative
  • ความเสี่ยง: ภูมิคุ้มกันต่อตัวยา, ผลข้างเคียงไม่รู้ระยะยาว, ปัญหาความบริสุทธิ์/การปนเปื้อน
  • สถานะทางกฎหมาย/กีฬา: WADA จัดเป็นสารต้องห้ามตลอดเวลา → นักกีฬาแข่งขันห้ามใช้