Tesamorelin คืออะไร
- Tesamorelin เป็นเปปไทด์อนาล็อกของ Growth Hormone-Releasing Factor (GHRF/GHRH) อนุมัติในชื่อการค้า EGRIFTA / EGRIFTA SV / EGRIFTA WR เพื่อ “ลดไขมันในช่องท้อง (visceral adipose tissue; VAT) ส่วนเกินในผู้ป่วยเอชไอวีที่มีภาวะ lipodystrophy” ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักทั่วไป และไม่ได้มีข้อมูลว่าช่วยให้ทานยาต้านไวรัสดีขึ้น. egriftasv.com
Half-life
- หลังฉีดใต้ผิวหนัง ขนาดเดี่ยวในอาสาสมัครสุขภาพดี (สูตร SV/WR): t½ ~8–11 นาที, Tmax ประมาณ 0.15 ชม. (≈9 นาที). egriftasv.com / Access Data
- ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หลังฉีดเดี่ยว 2 มก.: t½ เฉลี่ย ~18.6 นาที;
ให้ทุกวันต่อเนื่อง ~14 วัน: t½ เฉลี่ยเพิ่มเป็น ~26–38 นาที (สะท้อนการเปลี่ยนแปลงการกำจัด/ภูมิคุ้มกัน). Drugs.com / Access Data
ข้อดี/ประโยชน์ (ตามหลักฐาน)
- ในการทดลองระยะที่ 3 ที่สุ่ม ปกปิดสองฝ่ายในผู้ป่วยเอชไอวี-lipodystrophy การฉีดทุกวัน 26 สัปดาห์ ลด VAT ประมาณ 14–18% เมื่อเทียบยาหลอก และลดเส้นรอบเอวเล็กน้อย; มวลกล้ามไร้ไขมันเพิ่มเล็กน้อย. egriftasv.com
- ค่า IGF-1 สูงขึ้นตามกลไก (กระตุ้น GH) — เป็นทั้งสัญญาณการออกฤทธิ์และเหตุผลที่ต้องติดตามความปลอดภัย. egriftasv.com
- งานคลินิกย่อยชี้ว่าอาจ ลดไขมันตับ ร่วมกับลด VAT ในผู้ป่วยเอชไอวีบางกลุ่ม (ความหมายเชิงคลินิกระยะยาวยังต้องศึกษาต่อ). JAMA Network / PMC
ผลข้างเคียง
- พบบ่อย (>5%): ปวดข้อ/ปวดกล้ามเนื้อ, บวมกดน้ำ (edema), ชาปลอกมือ (carpal tunnel), ปฏิกิริยาบริเวณฉีด (แดง คัน ปวด ช้ำ), ปวดแขนขา. egriftasv.com
- IGF-1 สูงผิดปกติ: ที่สัปดาห์ 26 ผู้ป่วย ~47% มี IGF-1 >2 SDS และ ~36% >3 SDS → ควรติดตาม IGF-1 และพิจารณาหยุดหากสูงต่อเนื่องโดยประโยชน์ไม่ชัด. egriftasv.com
- ผิดปกติน้ำตาล/เสี่ยงเบาหวาน: เพิ่มโอกาส HbA1c ≥6.5% (HR ≈3.3 เทียบยาหลอก) → ประเมิน/ติดตามกลูโคสก่อนและระหว่างรักษา. egriftasv.com
- ภูมิแพ้/แพ้ยา (ผื่น คัน หน้าแดง ลมพิษ) พบได้; ให้หยุดหากสงสัย. egriftasv.com
- คำเตือนสำคัญ/ข้อห้าม: มะเร็งที่ยังเป็น, ตั้งครรภ์, แกนไฮโปทาลามัส-พิทูอิตารีผิดปกติ, ภาวะเจ็บป่วยวิกฤตเฉียบพลัน; พิจารณาความเสี่ยงเนื้องอกรายเดิม-รายหายและเฝ้าระวังการกลับเป็น. Access Data
ปริมาณการใช้
- มี หลายสูตร และ “ไม่สามารถทดแทนกัน” (โดส/การละลายต่างกัน):
- EGRIFTA SV (2 mg/ขวด): 1.4 mg SC วันละครั้ง ฉีดที่หน้าท้อง ใช้น้ำกลั่นฉีด (Sterile Water) ละลายแล้วฉีดทันที. egriftasv.com
- EGRIFTA WR (11.6 mg/ขวด): 1.28 mg SC วันละครั้ง ใช้ BAC water ละลาย ขวดหนึ่งใช้ได้ 7 วัน หลังผสม เก็บอุณหภูมิห้องตามฉลาก. Access Data
- สูตรเดิม EGRIFTA (1 mg/ขวด): 2 mg SC วันละครั้ง (อ้างอิงข้อมูลเก่า/สำหรับเทียบชีวสมมูล). egriftasv.com
- ฉีดสลับตำแหน่งในหน้าท้อง หลีกเลี่ยงสะดือ/แผล/รอยช้ำ. egriftasv.com
ระยะเวลาการใช้
- ประเมินผลที่ สัปดาห์ 26 (ประมาณ 6 เดือน) ว่า VAT ลดหรือไม่; หาก ไม่ลด พอสมควร ให้ชั่งผล-เสี่ยงก่อนเดินต่อ. egriftasv.com
- ต้องใช้ต่อเนื่องเพื่อคงผล: เมื่อ หยุดยา VAT จะกลับมาสะสมใหม่ ตามข้อมูลระยะยาวและเฟสขยายผล; การลด VAT คงอยู่ในผู้ที่ ยังคงใช้ ต่อถึง 52 สัปดาห์. PubMed/ Europe PMC / NATAP
หมายเหตุทางปฏิบัติ/การติดตาม
- ตรวจ กลูโคส/ HbA1c ก่อนเริ่มและระหว่างใช้; เฝ้าระวัง อาการบวม ปวดข้อ/มือชา และ ปฏิกิริยาบริเวณฉีด; ติดตาม IGF-1 เป็นระยะ. egriftasv.com
- ระวังการใช้ร่วมยาที่เมแทบอลิซึมผ่าน CYP450 (GH อาจเปลี่ยนกิจกรรมเอนไซม์) และผู้ใช้ สเตียรอยด์ทดแทน อาจต้องปรับขนาด. egriftasv.com
- ไม่ใช่ยาสำหรับลดน้ำหนักทั่วไป/โรคอ้วนในคนทั่วไป. Access Data
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- ฉลากยา/ข้อกำกับ EGRIFTA SV (02/2024): ขนาดยา 1.4 mg, ข้อห้าม-คำเตือน, PK, ผลข้างเคียง. egriftasv.com
- ฉลากยา EGRIFTA WR (03/2025): ขนาด 1.28 mg, วิธีละลาย/เก็บ, t½, ข้อห้าม-คำเตือน. Access Data
- ฉลากเดิม/สรุปทางคลินิก (เวอร์ชันก่อนหน้า): t½ หลังให้หลายวัน 26–38 นาที; โครงสร้างการทดลองเฟส 3. Access Data
- บทความ JAMA 2014 / PMC: ผลต่อไขมันตับและ VAT ในผู้ป่วยเอชไอวี. JAMA Network / PMC
- บทรีวิว PubMed: ภาพรวมประสิทธิผล-ความปลอดภัย และการ กลับมาสะสม VAT เมื่อหยุดยา. PubMed
แนวทางการใช้ Tesamorelin Wellness Peptides
“เสียงเล่าขาน/ภาคสนาม” ที่คนใช้นอกข้อบ่งใช้ (เช่น หวังลดไขมันพุง) แต่ยาที่ขึ้นทะเบียนจริง ๆ ใช้สำหรับ HIV-associated lipodystrophy เท่านั้น
วัตถุประสงค์ที่มักคาดหวัง
- ลด visceral fat (VAT) บริเวณช่องท้อง (ไม่ใช่ไขมันใต้ผิวเป็นหลัก)
- รักษาความคงตัวขององค์ประกอบร่างกายระหว่างลดน้ำหนัก/ไดเอท
- “รีสตาร์ท” แกน GH-IGF-1 ชั่วคราว (หวังให้ฟีลสดใส/ฟื้นตัวไวขึ้น)
รูปแบบยา/การผสมที่มักพูดถึง
- ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียน (เช่น EGRIFTA SV หรือ EGRIFTA WR) และ ทำตามวิธีผสมของสูตรนั้นอย่างเคร่งครัด—สองสูตรนี้ โดส/ตัวทำละลาย/อายุขวดหลังผสมไม่เหมือนกัน
- หลีกเลี่ยงการ “คอมปาวด์” จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเสี่ยงความบริสุทธิ์/โดสคลาดเคลื่อน
วิธีฉีด (ภาคสนามยึดตามฉลาก)
- ฉีดใต้ผิวหนัง (SC) ที่หน้าท้อง วันละครั้ง เวลาใกล้เคียงกันทุกวัน
- สลับตำแหน่งฉีด ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงรอบสะดือ/รอยแผล/รอยช้ำ
- เลี่ยงฉีดก่อนนอนในบางรายที่บวมน้ำง่าย (บางคนชอบฉีดเช้าเพื่อเฝ้าดูอาการ)
ขนาดที่เล่าขาน (อิงฉลากแต่เรียบง่าย)
- ถ้าเป็น EGRIFTA SV: ให้ 1.4 mg SC วันละครั้ง
- ถ้าเป็น EGRIFTA WR: ให้ 1.28 mg SC วันละครั้ง
- ไม่เกินวันละครั้ง และ อย่าสลับสูตร โดยไม่ปรับตามฉลากของสูตรนั้น
ระยะเวลาคอร์สที่พูดถึงบ่อย
- 12–26 สัปดาห์ เพื่อประเมินผล (จุดสิ้นสุดที่ชุมชนมักใช้คือสัปดาห์ที่ 26 เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลง VAT ชัดสุด)
- ถ้า “ได้ผล”: บางคนเดินต่อถึง 52 สัปดาห์ (ทราบดีว่าถ้าหยุด VAT มีแนวโน้มกลับ)
- ถ้า “ไม่ได้ผลชัด” ที่ 26 สัปดาห์: ภาคสนามส่วนใหญ่ หยุด เพราะเสี่ยงมากกว่าประโยชน์
สิ่งที่ผู้ใช้ภาคสนามมักติดตาม
- รอบเอว (ต้นคอร์ส/สัปดาห์ 12/สัปดาห์ 26)
- น้ำหนักตัว + %fat (ถ้ามี DEXA/CT ช่องท้องจะดีที่สุด)
- IGF-1 (baseline → สัปดาห์ 6–8 → สัปดาห์ 12–26)
- กลูโคส/ HbA1c (baseline → สัปดาห์ 12/26)
- อาการ บวมน้ำ ปวดมือ/ชามือ (carpal tunnel) ปวดข้อ และ ปฏิกิริยาที่ตำแหน่งฉีด
การ “ไทเทรต/พัก” ที่มักเล่าขาน
- ส่วนใหญ่ ไม่ไทเทรตโดส (ให้เต็มโดสวันละครั้งตั้งแต่เริ่ม)
- บางคนใช้รูปแบบ “5 วันฉีด / พัก 2 วัน” เพื่อลดบวม/ประหยัดค่าใช้จ่าย (หลักฐานสนับสนุนไม่มี ชุมชนมองว่าอาจลดประสิทธิภาพ)
- เมื่อได้ผลถึงเป้าหมาย: บางคน “หยุดและเฝ้าดู” หรือ “ลดความถี่” → VAT มักค่อย ๆ กลับ หากไม่ฉีดต่อ
การจับคู่/สแตกที่ชอบพูดถึง
- อาหาร/การฝึก: คุมแคลอรี + เวทเทรนนิ่ง/คาร์ดิโอความเข้มสูง (HIIT/MICT) เพื่อเน้น VAT
- หลีกเลี่ยงการสแตกกับ GH, GHRP อื่น: ภาคสนามจำนวนมากเตือนว่า IGF-1 สูงเกิน → บวม/ชามือ/น้ำตาลแกว่ง เพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
- ถ้ามี NAFLD: บางคลินิกใช้คู่การปรับอาหาร/ลดแอลกอฮอล์และยาที่แพทย์สั่ง (เช่น statin/GLP-1) — ไม่ควรทำเอง
เกณฑ์ “หยุด/ทบทวน” ที่ถูกพูดถึง
- IGF-1 > 3 SDS ซ้ำ ๆ หรืออาการ IGF-1 สูงชัด (บวมกดน้ำ/ชามือ/ปวดข้อ)
- กลูโคสแย่ลง (FPG/HbA1c ขึ้นชัด) หรือมีสัญญาณ prediabetes/diabetes
- ไม่เห็น VAT/รอบเอว ลดชัดเจนเมื่อครบ 26 สัปดาห์
- ผื่น/ลมพิษ/แพ้ยา, ปฏิกิริยาบริเวณฉีดรุนแรง
กลุ่มที่ภาคสนามเตือน “ไม่ควรใช้”
- ตั้งครรภ์, ให้นมบุตร
- มะเร็งที่ยังเป็น/เพิ่งรักษา หรือมีความเสี่ยงกำเริบ (มีการพูดถึง “หลีกเลี่ยงทั้งหมด”)
- ความผิดปกติของแกนต่อมใต้สมอง–แอดรีนัล หรือ ป่วยวิกฤตเฉียบพลัน
- ความดันตาล/น้ำตาลคุมไม่ได้
ตัวอย่างโปรโตคอลแบบย่อ (ภาคสนามแต่ยึดฉลาก)
- วัน 0: baseline เอว/น้ำหนัก/IGF-1/กลูโคส/HbA1c
- วัน 1–84 (สัปดาห์ 1–12): ฉีด SC วันละครั้ง (ตามสูตรยา), จดอาการบวม/ชามือ/ปวดข้อ
- สัปดาห์ 6–8: เช็ก IGF-1; ถ้าสูงมาก + อาการชัด → พัก/หยุด
- สัปดาห์ 12: เช็ก กลูโคส/HbA1c + เอว
- สัปดาห์ 26: ประเมิน ผลลัพธ์หลัก (เอว/VAT) →
- ได้ผล/ทนได้ดี: พิจารณาเดินต่อพร้อมเฝ้าระวัง
- ไม่ได้ผล/ทนไม่ได้: หยุด
ข้อควรระวังเชิงปฏิบัติ
- ใช้ ผลิตภัณฑ์ถูกต้องตามกฎหมาย มี COA/ฉลากชัดเจน
- ทำตามคู่มือ การผสม/การเก็บ ของสูตรนั้น (SV ≠ WR) อย่างเคร่งครัด
- รักษาเทคนิคปลอดเชื้อ, สลับตำแหน่งฉีดทุกครั้ง
- อย่าหวัง “ลดน้ำหนักทั้งตัว”—Tesamorelin เจาะจง VAT และ ผลจะถอยกลับ เมื่อหยุด